วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

เครื่องวัดแสง (Light meter)

เครื่องวัดแสงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการถ่ายภาพ เป็นเครื่องมือที่จะคำนวณปริมาณของแสงที่ถูกต้อง สามารถบอกเป็นตัวเลขของช่องรับแสงและความเร็วชัตเตอร์ กล้องถ่ายภาพรุ่นใหม่ ๆ จะมีเครื่องวัดแสงติดมากับตัวกล้อง (Exposure meter) ซึ่งมีวัสดุที่ทำหน้าที่เปลี่ยนแสงให้เป็นไฟฟ้าอยู่ 4 ชนิด คือ

1. เซลล์แคดเมียมซัลไฟด์ (CDS) มีขนาดเล็ก มีความไวแสงมากกว่าเซลล์ซีลีเนียม ใช้ได้ดีในที่ ที่มีแสงน้อย

2. เซลล์ซีลีเนียม

3. เซลล์ซีลีเนียม (SPD) มีขนาดเล็กและมีความไวแสงมากกว่าเซลล์แคดเมียม ถือได้ว่าเป็นเซลล์ไวแสงที่เหมือนตามนุษย์มากที่สุด

4. เซลล์แกลเลี่ยม เป็นเซลล์ที่มีความไวในการวัดแสงได้ดีมาก นิยมใช้แทนเซลล์ซิลิคอนเพราะมีราคาถูกกว่า และคุณสมบัติที่เหนือกว่า

เครื่องวัดแสงที่ติดตั้งในตัวกล้องแบ่งได้เป็น 2 พวก คือ

1. ตัววัดแสงอยู่ดานนอกของตัวกล้อง อาจใช้ซีลีเนียม หรือแคดเมียมซัลไฟด์ มีขนาดและรูปร่างต่าง ๆ ส่วนมากจะติดอยู่ที่ตัวเลนส์หรือรอบวงแหวนของเลนส์

2. ตัววัดแสงอยู่ภายในตัวกล้อง และวัดแสงที่หักเหผ่านเลนส์ (Trough the lens) หรือ TTL มักใช้แคดเมียมซัลไฟด์ เพราะมีขนาดเล็กและความไวแสงสูง สามารถวัดแสงได้ถูกต้องและแม่นยำ มักติดตั้งเซลล์วัดแสงที่ตัวปริซึมห้าเหลี่ยม หรือในช่องใต้กระจกสะท้อนภาพ

เครื่องวัดแสงแบบ TTL มีระบบในการวัดอยู่ 3 แบบ

1. วัดแสงเฉพาะตรงส่วนกลาง (Center sport) เป็นการวัดแสงในเนื้อที่เล็ก เฉพาะส่วนที่ต้องการ ทำให้การวัดแสงถูกต้องดีมาก

2. แบบเฉลี่ยแสงทั่วทั้งภาพ (Full area averaging) เซลล์วัดแสงจะรับแสงสะท้อนจากวัตถุทั้งหมดแล้วเฉลี่ยปริมาณของแสง

3. แบบเฉลี่ยแสงแบบกลางภาพ (Center weighted) เป็นการวัดแสงผสมกันระหว่างวัดเฉพาะส่วนกลางกับวัดเฉลี่ยแสงทั่วทั้งภาคให้ผลในการวัดแสงถูกต้องดีมากที่สุด

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น