วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

การใช้อิเล็กทรอนิกส์แฟลช

อิเล็กทรอนิกส์แฟลชทุกตัวจะมีตัวเลขนำ (Guide number) หรือ GN ตัวเลขนำ คือ ตัวเลขที่บอกให้ทราบถึงความสามารถของแฟลชที่ให้กำลังส่องสว่างได้มากน้อยเพียงใด จากตัวเลขนำนี้ เราสามารถคำนวณหาขนาดช่องรับแสงที่ถูกต้องโดยให้สัมพันธ์กับระยะทางจากแฟลชถึงวัตถุที่จะถ่าย ดังนี้

ขนาดช่องรับแสง = ขนาดช่องรับแสง / ระยะทางจากแฟลชถึงวัตถุ

ถ้าแฟลชไม่บอกตัวเลขนำ อาจหาได้โดยใช้ฟิล์มที่ความไวแสงฟิล์ม 100 ISO ทดลองถ่ายภาพในระยะใดระยะหนึ่ง สมมติว่า 10 ฟุต แล้วถ่ายภาพโดยใช้แฟลชเปิดช่องรับแสงขนาดต่าง ๆ เช่น 2.8 4 5.6 8 11 16 หลังจากนำฟิล์มผ่านกระบวนการสร้าง อัดขยายแล้ว ให้ดูว่าภาพที่ดีที่สุดเป็นภาพที่เปิดช่องรับแสงเท่าใด สมมติว่าเป็น 8 ก็คำนวณหาตัวเลขนำของแฟลชได้ดังนี้

ตัวเลขนำ = ขนาดช่องรับแสง x ระยะทางจากแฟลชถึงวัตถุ

= 8 x 10

= 80

ตัวเลขนำของแฟลช คือ 80 ถ้าใช้ฟิล์มที่มีความไวแสงฟิล์ม 100 ISO นำไปถ่ายภาพครั้งต่อไป ก็สามารถคำนวณการปรับช่องรับแสงได้ เช่น การถ่ายภาพที่แฟลชห่างจากวัตถุที่จะถ่าย 15 ฟุต จากสูตร

ขนาดช่องรับแสง = ตัวเลขนำ / ระยะห่างจากวัตถุที่จะถ่าย

= 80 / 15

= 5.33

จะได้ขนาดช่องรับแสงประมาณ F 5.6

แฟลชอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมากจะมีแผ่นคำนวณการตั้งขนาดช่องรับแสงกับระยะวัตถุ ซึ่งสัมพันธ์กับความไวแสงฟิล์มที่ใช้ ในการใช้แผ่นคำนวณ ให้ทำดังนี้

1. ตั้งค่าความไวแสงฟิล์มบนตารางให้ถูกต้อง โดยหมุนแผ่นวงกลมที่มีตัวเลขบอกค่าความไวแสงฟิล์มที่ใช้ให้ตรงกับเครื่องหมาย เช่น 100 ISO หรือ 21 DIN

2. ดูว่าวัตถุที่จะถ่ายห่างจากแฟลชเท่าใด สมมุติว่า 20 ฟุต หรือ ประมาณ 6 เมตร ก็ให้ดูที่ตัวเลขที่บอกระยะที่ 20 ฟุต หรือ 6 เมตร ตรงกับขนาดช่องรับแสงเท่าใด จากแผ่นคำนวณจะพบว่าตรงกับขนาดช่องรับแสง หรือ F stop 5.6

3. ใช้ตัวเลข 5.6 ไปปรับขนาดช่องรับแสงที่เลนส์ เมื่อจะถ่ายภาพโดยใช้แฟลชที่วัตถุห่างจากแฟลช 20 ฟุต หรือประมาณ 6 เมตร

ในปัจจุบันมีแฟลชแบบอัตโนมัติ ผู้ถ่ายภาพเพียงแต่ตั้งระยะที่จะถ่ายภาพ ปรับระยะชัด แฟลชจะให้แสงสว่างแก่วัตถุได้พอดี

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น